ซาลาห์ทำลายสถิติรูนีย์ ยิง-จ่ายให้ทีมเดียวสูงสุดพรีเมียร์ลีก

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงชาวอียิปต์ของลิเวอร์พูล สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษอีกครั้ง เมื่อกลายเป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมกับประตูให้กับสโมสรเดียวมากที่สุดในประวัติศาสตร์ลีก ด้วยการแซงหน้าตำนานแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างเวย์น รูนี่ย์ได้สำเร็จ หลังจากเปิดลูกเตะมุมให้อูโก้ เอกีตีเก้ทำประตูในเกมที่ลิเวอร์พูลเปิดบ้านถล่มไบรท์ตัน 2-0 ทำให้ตอนนี้เขามีส่วนร่วมกับประตูรวม 277 ลูก (188 ประตู, 89 แอสซิสต์) ขณะที่รูนี่ย์อยู่ที่ 276 ลูก สถิติครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์ถึงความยิ่งใหญ่และความสม่ำเสมอของซาลาห์ที่มีมาตลอดอาชีพในพรีเมียร์ลีก

โมฮาเหม็ด ซาลาห์

การทำลายสถิติของรูนี่ย์-ความหมายที่ยิ่งใหญ่

การที่โมฮาเหม็ด ซาลาห์สามารถแซงหน้าเวย์น รูนี่ย์ในสถิติการมีส่วนร่วมกับประตูให้กับสโมสรเดียวถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง เนื่องจากรูนี่ย์เป็นหนึ่งในตำนานของพรีเมียร์ลีกที่ทุกคนให้การยอมรับ โดยเขาใช้เวลา 13 ปี (2004-2017) ในการสร้างสถิติ 276 ครั้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ในทางตรงกันข้าม ซาลาห์ใช้เวลาเพียงประมาณ 7 ปีครึ่งนับตั้งแต่ย้ายมาจากโรม่าในปี 2017 ในการสร้างสถิติ 277 ครั้งให้กับลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ยที่สูงกว่ารูนี่ย์อย่างมาก โดยซาลาห์มีอัตราส่วนการมีส่วนร่วมกับประตูประมาณ 0.93 ต่อเกม ในขณะที่รูนี่ย์อยู่ที่ประมาณ 0.56 ต่อเกม สถิตินี้สะท้อนถึงประสิทธิภาพอันน่าทึ่งของซาลาห์ในการทำประตูและสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีม รวมถึงความสม่ำเสมอในการแสดงฟอร์มในระดับสูงตลอดหลายฤดูกาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากในยุคที่ฟุตบอลมีความแข่งขันสูง นักเตะมีการบาดเจ็บบ่อย และมีแรงกดดันจากการแข่งขันในหลายรายการ

สำหรับแฟนบอลที่ติดตามสถิติและผลงานของซาลาห์อย่างใกล้ชิด UFA777 เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลครบถ้วนและอัปเดตทุกสถิติของพรีเมียร์ลีกแบบเรียลไทม์

เส้นทางสู่ความเป็นตำนานของซาลาห์ในพรีเมียร์ลีก

โมฮาเหม็ด ซาลาห์เริ่มต้นอาชีพในพรีเมียร์ลีกกับเชลซีในปี 2014 แต่ไม่ได้รับโอกาสมากนัก ทำให้ต้องย้ายไปเล่นที่อิตาลีกับฟิออเรนตินาและโรม่า ซึ่งที่นั่นเองที่เขาพัฒนาฟอร์มจนกลายเป็นกองหน้าชั้นนำของกัลโช่ เซเรีย อา การกลับมาสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งในปี 2017 กับลิเวอร์พูลถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของอาชีพซาลาห์ ในฤดูกาลแรกเขาทำไปได้ 32 ประตูในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นสถิติของนักเตะที่เล่นในโครงสร้าง 38 เกม และคว้ารางวัล PFA Player of the Year และ Golden Boot ตั้งแต่นั้นมา ซาลาห์ได้พิสูจน์ตัวเองอย่างต่อเนื่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ด้วยการทำประตูและแอสซิสต์อย่างสม่ำเสมอทุกฤดูกาล เขาช่วยให้ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ปี 2019-20 หลังจากรอคอยมานาน 30 ปี และยังช่วยทีมคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2019 อีกด้วย 

นอกจากรางวัลระดับทีมแล้ว ซาลาห์ยังคว้ารางวัลบุคคลมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Golden Boot ถึง 3 สมัย, PFA Player of the Year, FWA Footballer of the Year และติดทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกหลายครั้ง ซึ่งล้วนแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของเขาในฐานะนักเตะระดับโลก

การเปรียบเทียบกับตำนานกองหน้าพรีเมียร์ลีก

เมื่อพิจารณาจากสถิติการทำประตูล้วนๆ ซาลาห์ปัจจุบันมี 190 ประตูในพรีเมียร์ลีก (รวมกับช่วงที่เล่นให้เชลซี) ซึ่งทำให้เขาอยู่ในอันดับ 4 ของนักเตะที่ทำประตูมากที่สุดตลอดกาลในพรีเมียร์ลีก โดยตามหลัง อลัน เชียเรอร์ (260 ประตู), แฮร์รี่ เคน (213 ประตู) และเวย์น รูนี่ย์ (208 ประตู)

แม้ว่าซาลาห์จะยังห่างจากเชียเรอร์อีกพอสมควร แต่ด้วยอัตราการทำประตูที่สูงของเขา หากเขายังคงรักษาฟอร์มและความฟิตได้ดีต่อไปอีก 2-3 ฤดูกาล โอกาสที่จะแซงหน้าเคนและรูนี่ย์ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ตลอดกาลนั้นเป็นไปได้สูงมาก ส่วนด้านแอสซิสต์ ซาลาห์มี 90 แอสซิสต์ รั้งอันดับ 9 ร่วมกับเจมส์ มิลเนอร์ และหากเขายังคงแสดงฟอร์มได้ดีในฤดูกาลนี้ ก็มีโอกาสสูงที่จะแซงหน้า สตีเวน เจอร์ราร์ด (92 ครั้ง), ดาบิด ซิลบา (93 ครั้ง) และเดนนิส เบิร์กแคมป์ (94 ครั้ง) ได้ สิ่งที่น่าสนใจคือซาลาห์เป็นนักเตะประเภทกองหน้าแท้ๆ แต่กลับมีจำนวนแอสซิสต์สูงมาก ซึ่งแตกต่างจากนักเตะอื่นๆ ในท็อป 10 ที่ส่วนใหญ่เป็นกองกลางหรือปีก สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถรอบด้านของเขาในการไม่เพียงทำประตู แต่ยังสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แฟนพนันบอลที่สนใจวิเคราะห์สถิติเจาะลึกสามารถติดตามข้อมูลครบถ้วนได้ที่ UFA777 เว็บสล็อต ซึ่งนอกจากจะมีการเดิมพันฟุตบอลแล้วยังมีเกมสล็อตและคาสิโนให้เลือกเล่นหลากหลาย

ความสำคัญของซาลาห์ต่อความสำเร็จของลิเวอร์พูล

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ไม่ได้เป็นเพียงนักเตะที่ทำประตูและแอสซิสต์เยอะเท่านั้น แต่เขายังเป็นหัวใจสำคัญของทีมลิเวอร์พูลในหลายๆ ด้าน การมีอยู่ของเขาในทีมทำให้คู่ต่อสู้ต้องจัดสรรกำลังพิเศษในการรับมือ ซึ่งเปิดพื้นที่ให้นักเตะคนอื่นๆ ในทีมได้มากขึ้น

ในด้านการทำประตู ซาลาห์เป็นนักเตะที่สามารถทำประตูได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการยิงด้วยเท้าซ้าย (เท้าถนัด), การโหม่งศีรษะ, การยิงฟรีคิก หรือแม้แต่การยิงจากระยะไกล ความหลากหลายนี้ทำให้เขาเป็นภัยคุกคามตลอด 90 นาทีของการแข่งขัน นอกจากนี้ ซาลาห์ยังเป็นนักเตะที่มีความสำคัญในช่วงเวลาสำคัญของเกม เขามักจะโผล่มาทำประตูในช่วงท้ายเกมหรือในเกมที่ทีมต้องการคะแนนอย่างจำเป็น ซึ่งเป็นคุณสมบัติของนักเตะระดับโลกที่แท้จริง

ในด้านภาวะผู้นำ แม้ว่าซาลาห์จะไม่ใช่กัปตันทีม แต่เขาก็เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเตะรุ่นน้อง ทั้งในเรื่องของการฝึกซ้อม วินัย และความทุ่มเทให้กับทีม การที่เขาสามารถรักษาระดับฟอร์มได้สม่ำเสมอตลอดหลายฤดูกาลแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพสูง

อนาคตและโอกาสในการสร้างสถิติใหม่

ในวัย 33 ปี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ยังคงแสดงฟอร์มได้ในระดับสูง แม้ว่าจะมีคำถามเกี่ยวกับอนาคตของเขากับลิเวอร์พูล โดยเฉพาะเมื่อสัญญาจะหมดลงในอีกไม่กี่ปี แต่สิ่งที่แน่นอนคือเขายังมีโอกาสสร้างสถิติใหม่ๆ ได้อีกมาก หากซาลาห์สามารถเล่นต่อในพรีเมียร์ลีกได้อีก 2-3 ฤดูกาล ด้วยอัตราการทำประตูเฉลี่ยประมาณ 20-25 ประตูต่อฤดูกาล เขามีโอกาสสูงที่จะแซงหน้าเวย์น รูนี่ย์ (208 ประตู) และแฮร์รี่ เคน (213 ประตู) ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของนักเตะที่ทำประตูมากที่สุดตลอดกาลในพรีเมียร์ลีก รองจากอลัน เชียเรอร์เพียงคนเดียว

ส่วนในเรื่องของแอสซิสต์ หากเขายังคงสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างสม่ำเสมอ การขึ้นไปสู่ท็อป 5 ตลอดกาลในด้านนี้ก็เป็นไปได้ ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่อยู่ในท็อป 5 ทั้งประตูและแอสซิสต์ นอกจากสถิติส่วนบุคคลแล้ว ซาลาห์ยังมีโอกาสที่จะช่วยลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 2 ภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่ สล็อต ผู้จัดการทีมคนใหม่ ซึ่งหากสำเร็จจะเป็นการเพิ่มมรดกของเขากับสโมสรให้ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก ไม่ว่าอนาคตของซาลาห์จะเป็นอย่างไร สิ่งที่แน่นอนคือเขาได้จารึกชื่อของตัวเองลงในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกอย่างไม่มีใครเทียบได้แล้ว และจะถูกจดจำในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยเล่นในลีกนี้

สรุป

บทความนี้นำเสนอความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ที่สร้างสถิติใหม่ในพรีเมียร์ลีกด้วยการแซงหน้าตำนานเวย์น รูนี่ย์ในการมีส่วนร่วมกับประตูให้กับสโมสรเดียว โดยมีส่วนร่วม 277 ครั้ง (188 ประตู, 89 แอสซิสต์) ในเวลาเพียง 7 ปีครึ่ง เร็วกว่ารูนี่ย์ที่ใช้เวลา 13 ปี วิเคราะห์เส้นทางความสำเร็จของซาลาห์ตั้งแต่ล้มเหลวกับเชลซี จนกลับมาโดดเด่นกับลิเวอร์พูลและคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก เปรียบเทียบสถิติกับตำนานกองหน้าอื่นๆ โดยซาลาห์อยู่อันดับ 4 ด้านประตู (190 ลูก) และอันดับ 9 ด้านแอสซิสต์ (90 ครั้ง) พร้อมชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของเขาต่อความสำเร็จของลิเวอร์พูลทั้งในด้านการทำประตู การสร้างโอกาส และภาวะผู้นำ รวมถึงวิเคราะห์โอกาสในการสร้างสถิติใหม่ในอนาคต ซึ่งหากเล่นต่อได้อีก 2-3 ฤดูกาลก็มีโอกาสแซงหน้าเคนและรูนี่ย์ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ตลอดกาล และจารึกชื่อเป็นหนึ่งในตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพรีเมียร์ลีก