อุปสรรคคือสิ่งที่มนุษย์แทบทุกคนต้องพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ชีวิต หรือความฝัน นักฟุตบอลอาชีพเองก็ไม่ต่างกัน บางคนต้องเจอกับอาการบาดเจ็บ บางคนต้องผ่านช่วงฟอร์มตก หรือการยกระดับตัวเองให้ทันมาตรฐานที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ของเกมยุคใหม่
แต่สำหรับนักเตะทีมชาติมาเลเซียอย่าง ไฟซาล ฮาลิม อุปสรรคที่หนักที่สุดของเขาไม่ได้เกิดในสนาม หากเป็นเหตุการณ์นอกสนามที่เกือบพรากชีวิตไปจากการลงมือของคนร้ายที่หวังประทุษร้ายอย่างอุกอาจ ต่อให้เขารอดมาได้ ชีวิตหลังจากนั้นก็ต้องเจอความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจแบบที่แทบไม่มีใครอยากเผชิญ
อย่างไรก็ตาม วันนี้ชื่อของไฟซาล ฮาลิม กลับมาอยู่บนเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพอีกครั้ง ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่งกว่าเดิม แล้วเขาผ่านช่วงเวลานรกนั้นมาได้อย่างไร? ติดตามได้ที่นี่

ต้นกำเนิดของ “ไฟซาล”
มูฮัมหมัด ไฟซาล บิน อับดุล ฮาลิม หรือที่แฟนบอลรู้จักกันในชื่อ “ไฟซาล” และเพื่อน ๆ มักเรียกเขาว่า “มิกกี้” เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 1998 ในหมู่บ้านเม็งกวง ตีติ เมืองเซเบรังเปไร รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ชุมชนของเขาเป็นพื้นที่ที่ผู้คนส่วนใหญ่ทำเกษตรกรรมหรือทำอุตสาหกรรมในครัวเรือนเป็นหลัก
ในเวลาว่าง คนในหมู่บ้าน—โดยเฉพาะผู้ใหญ่—มักรวมกลุ่มทำกิจกรรมกีฬา ทั้งเซปักรากา (Sepak Raga) หรือเซปักตะกร้อ และอีกกีฬาที่ได้รับความนิยมมากในมาเลเซียคือ “เซปัก โบลา ซารุง” (Sepak Bola Sarung) ซึ่งก็คือฟุตบอลในแบบที่เราคุ้นเคย
การได้เห็นผู้ใหญ่เล่นฟุตบอลอยู่เป็นประจำ ทำให้เด็กชายไฟซาลเริ่มใกล้ชิดกับลูกกลม ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่ความฝันจะชัดเจนขึ้นทุกวัน—เขาอยากเป็น “นักฟุตบอลอาชีพ”
ปี 2012 ตอนอายุ 14 ปี ไฟซาลเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังจริงจังด้วยการเข้าอะคาเดมีของ ปีนัง เอฟซี ทีมจากถิ่นบ้านเกิด ด้วยรูปร่างที่ค่อนข้างเล็ก โค้ชในอะคาเดมีจึงให้เขาลองยืนริมเส้นและบางครั้งขยับเป็นกองหน้า เพื่อดึงศักยภาพเรื่องความเร็วกับความคล่องตัวออกมาให้มากที่สุด
เขาใช้เวลาพัฒนาฝีเท้าราว 3 ปี ก่อนจะได้โอกาสขยับขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ซึ่งถือว่าเร็วมากเมื่อเทียบกับดาวรุ่งหลายคนที่ต้องใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์และทำความเข้าใจแท็กติก 4–5 ปีเป็นอย่างต่ำ
ฤดูกาล 2015 ในวัยเพียง 17 ปี ไฟซาลมีชื่อกับทีมชุดใหญ่ของปีนัง เอฟซี อย่างเป็นทางการ แต่ยังไม่ได้ลงสนามในมาเลเซีย พรีเมียร์ลีก (ดิวิชั่น 2 ของประเทศ) โอกาสการลงเล่นจริงของเขาต้องรอจนถึงเดือนตุลาคม 2015 ในเกมบอลถ้วย มาเลเซีย คัพ รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 พบกับ PDRM FC (ทีมสโมสรตำรวจมาเลเซีย)
เกมนั้นไฟซาลลงสนามนัดแรกก็ทำประตูได้ทันที ทว่าสุดท้ายปีนังพ่าย PDRM 2-3 และทั้งสองทีมตกรอบแบ่งกลุ่มไปพร้อมกัน
สามปีที่เขาฝึกหนักในอะคาเดมี แต่เมื่อขึ้นทีมชุดใหญ่กับปีนัง เอฟซี เขาได้ลงเล่นรวมเพียง 3 นัด ยิงได้ 1 ประตูเท่านั้น สุดท้ายในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน ไฟซาลได้รับข้อเสนอจากทีมลีกสูงสุดอย่าง ศรีปาหัง เอฟซี และย้ายไปชูเสื้อกับอดีตแชมป์มาเลเซีย ซูเปอร์ ลีก ปี 2004 นี่คือจุดเริ่มต้นของ “ความก้าวหน้า” ในเส้นทางค้าแข้งของเขา
เส้นทางค้าแข้งที่เริ่มเติบโต
การย้ายมาอยู่ศรีปาหัง เอฟซี ทำให้ไฟซาลได้สัมผัสเกมลีกสูงสุดมาเลเซียเป็นครั้งแรก ในเกมที่เสมอกับเปรัก เอฟซี 1-1 ซึ่งเขาลงมาเป็นตัวสำรองช่วง 15 นาทีสุดท้าย
แต่ความจริงของชีวิตนักเตะดาวรุ่งไม่ได้สวยงามเสมอไป แม้เปิดฤดูกาลจะได้โอกาสเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาถูกดร็อปเป็นตัวสำรองอยู่หลายเกม และหนักสุดถึงขั้น “ไม่มีชื่อ” แม้กระทั่งม้านั่งสำรองติดต่อกันหลายครั้ง
ในรายการบอลถ้วยอย่าง มาเลเซีย เอฟเอ คัพ ซึ่งปกติมักเป็นเวทีให้ดาวรุ่งได้มีโอกาส แต่ศรีปาหังกลับไม่ใส่ชื่อเขา ทำให้ไฟซาลหมดสิทธิ์ช่วยทีมในรายการนี้
ฤดูกาลแรกของเขาอาจยังไม่ราบรื่น ทว่าอีกมุมหนึ่งคือในเวลานั้นเขาเพิ่งอายุ 18 ปี ยังมีพื้นที่ให้พิสูจน์ตัวเองอีกมาก
เข้าสู่ปี 2018 ไฟซาลเริ่มได้สัมผัสเกมมากขึ้น แม้ในลีกจะยังไม่ได้ยืนตัวจริงต่อเนื่อง แต่เขาเริ่มฝากชื่อไว้บนสกอร์บอร์ดจากการลงมาเป็นสำรองแล้วยิงใส่ทั้งมะละกา ยูไนเต็ด และตะรังกานู เอฟซี ช่วยให้ศรีปาหังคว้าชัยชนะสองเกมติด
และในมาเลเซีย เอฟเอ คัพ ปี 2018 เขาได้รับโอกาสลงสนามหลายเกมตั้งแต่รอบแรกไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนจะเป็นหนึ่งในขุนพลพาทีมคว้าแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จ
ตลอด 5 ฤดูกาลกับศรีปาหัง เอฟซี ไฟซาลลงสนาม 60 นัด ทำได้ 9 ประตู 4 แอสซิสต์ ก่อนหมดสัญญาและย้ายไป ตะรังกานู เอฟซี ในปลายปี 2020
กับตะรังกานู เอฟซี หากพูดเรื่องโทรฟี่ เขายังไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้ ใกล้ที่สุดคือรองแชมป์มาเลเซีย เอฟเอ คัพ หลังแพ้ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม 1-3 ในรอบชิงปี 2022
แต่ในด้านผลงานส่วนตัว เขาทำได้โดดเด่นมาก ช่วงเวลาราว 2 ปี เขาลงเล่นทุกรายการ 53 นัด ยิง 15 ประตู และทำ 21 แอสซิสต์ ในวัยเพียง 23–24 ปี ถือเป็นพัฒนาการที่ชัดเจนและต่อเนื่อง
เกมสุดท้ายของเขากับตะรังกานูคือ มาเลเซีย คัพ รอบรองชนะเลิศ พบกับ สะลังงอร์ เกมแรกสะลังงอร์ชนะ 3-1 ส่วนเกมที่สองตะรังกานูเปิดบ้านชนะ 1-0 จากประตูที่ไฟซาลทำแอสซิสต์ให้ แต่สกอร์รวมสองนัดยังเป็นสะลังงอร์เข้าชิงด้วยผลรวม 3-2
แม้ไปไม่ถึงฝันเรื่องแชมป์ แต่ฟอร์มของปีกทีมชาติมาเลเซียเข้าตาอย่างแรง และสะลังงอร์ก็ดึงตัวเขาไปร่วมทีมในปีถัดมา
จุดพลิกผันจากผู้ไม่หวังดี
เมื่อย้ายมาอยู่กับสะลังงอร์ เส้นทางอาชีพของไฟซาลในระดับสโมสรเริ่มดู “เข้าที่เข้าทาง” มากขึ้น ส่วนในทีมชาติมาเลเซีย เขาติดทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2019 แต่ช่วงที่เริ่มได้ลงเล่นต่อเนื่องจริง ๆ คือราวปี 2022 เป็นต้นมา
ท่ามกลางช่วงเวลาที่ผลงานกำลังโดดเด่น เขากลับเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกือบพรากชีวิตไปตลอดกาล
เหตุเกิดวันที่ 5 พฤษภาคม 2024 ไฟซาลกำลังใช้เวลากับครอบครัวเลือกซื้อของในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านโกตา ดามันซารา รัฐสะลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย
เวลาประมาณ 17:45 น. ตามเวลาท้องถิ่น กล้องวงจรปิดจับภาพชายคนหนึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีดำและหมวก ยืนรออยู่ด้านหลังรถสีดำคันหนึ่ง เขามองไฟซาลเดินไปที่รถ จากนั้นเดินเข้าหาแล้วพูดสั้น ๆ ว่า “โชคดี” ก่อนจะ สาดน้ำกรด ใส่ไฟซาลหลายครั้ง แล้วหลบหนีไปพร้อมชายอีกคนที่รอรถจักรยานยนต์อยู่ไม่ไกล โดยแรงจูงใจยังไม่ถูกเปิดเผย
ที่น่าหวั่นใจคือก่อนหน้านั้นเพียง 3 วัน (วันที่ 2 พฤษภาคม 2024) เพื่อนร่วมทีมชาติของไฟซาลอย่าง อัคยาร์ ราชิด ก็ถูกคนร้ายปรี่เข้ามาทำร้ายที่เมืองตะรังกานู ด้วยท่อนเหล็กจนบาดเจ็บศีรษะและขา ก่อนถูกปล้นทรัพย์แล้วหลบหนี
และอีกไม่กี่วันต่อมา เหตุร้ายยกระดับความโหดขึ้นกับไฟซาล—ไม่ใช่แค่ทุบตี แต่เป็นการสาดน้ำกรดหวังให้เสียโฉมหรืออาจถึงขั้นเอาชีวิต
ไฟซาลบาดเจ็บรุนแรงเป็นแผลไหม้ระดับ 4 ซึ่งลึกถึงชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง เช่น กล้ามเนื้อหรือกระดูก เขาถูกส่งโรงพยาบาลด่วน ต้องผ่าตัดถึง 4 ครั้ง และพักฟื้นในห้องฉุกเฉินหลายวัน
ผลกระทบลามไปถึงสโมสร เมื่อสะลังงอร์ซึ่งมีกำหนดเจอ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม แชมป์มาเลเซีย ซูเปอร์ ลีก ปี 2023 ในเกมเปิดฤดูกาลรายการ มาเลเซียน แชริตี้ ชิลด์ ต้องถอนตัวจากการแข่งขันด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
สำหรับไฟซาลเอง บาดแผลไม่ได้มีแค่บนผิวหนัง แต่ยังลามถึงสภาพจิตใจ เขาต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะค่อย ๆ เยียวยาและฟื้นตัวกลับมา
คดีที่ยากจะไปต่อ และการกลับสู่สนาม
ตำรวจพยายามรวบรวมหลักฐานเพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด แต่หลักฐานในที่เกิดเหตุไม่สมบูรณ์ ทำให้คดีเดินหน้าได้ยากมาก
แถลงการณ์วันที่ 19 พฤษภาคม 2024 ตำรวจเผยแพร่ภาพร่างผู้ต้องสงสัย ต่อมาพบว่าลายนิ้วมือ 5 จาก 8 ที่เก็บได้ไม่สมบูรณ์
ทีมกฎหมายของไฟซาลประกาศว่าคดีถูกจัดประเภทอย่างเป็นทางการว่า “ไม่มีการดำเนินการเพิ่มเติม” (NFA) โดยสำนักงานอัยการสูงสุด (AGC) ผ่านจดหมายลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งระบุว่าตำรวจไม่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยหรือหาเบาะแสที่น่าเชื่อถือได้ แม้พยายามแล้วก็ตาม
ทีมกฎหมายของไฟซาล นำโดย โมฮัมหมัด อัชราฟ นิค ซาริธ แสดงความผิดหวัง และระบุว่าจะยื่นคำร้องต่อ โมฮัมหมัด ดูซูกี มอคตาร์ อัยการสูงสุด เพื่อให้ทบทวนและพิจารณาเปิดคดีใหม่
ขณะเดียวกัน อาการผิวหนังไหม้บริเวณใบหน้า คอ ไหล่ มือ และหน้าอก ทำให้ไฟซาลไม่สามารถพูดหรือเคลื่อนไหวได้ตามปกติ หมายความว่าเขาไม่ได้แตะฟุตบอล—สิ่งที่เขารักที่สุด—เป็นเวลายาวนานกว่า 2 เดือน
เดือนกรกฎาคม 2024 ไฟซาลเริ่มฟื้นฟูร่างกายอย่างเต็มที่ และได้รับอนุญาตจากแพทย์ให้ฝึกซ้อมส่วนตัวกับสะลังงอร์เป็นเวลา 1 เดือน ก่อนจะกลับมามีชื่อเป็นตัวสำรองในเดือนถัดมา ในเกม มาเลเซีย เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ซึ่งตรงกับช่วงราว 90 วัน หลังเหตุการณ์สยองครั้งนั้น
เสียโฉมแต่ขอสู้ต่อ
“ผมไม่ได้กลัว แต่ผมแค่ไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นกับใครอีก” ไฟซาล ฮาลิม วัย 27 ปี กล่าวกับ BBC Sport
“ผมเลยไม่อยากออกไปข้างนอกอีกเลย พอซ้อมเสร็จ ผมก็กลับบ้านไปอยู่กับลูกชาย ภรรยา และครอบครัว”
เขายังเล่าถึงช่วงเวลาในโรงพยาบาลว่าเป็นวันที่ยากมาก “ผมมักจะนึกถึงความทรงจำเก่า ๆ มันโหดมาก ผมรู้สึกแย่มาก จิตใจผมย่ำแย่ และขวัญกำลังใจแตกสลาย”
“หลายอย่างเปลี่ยนไป…ผมไม่สามารถยิ้มได้อย่างเต็มที่”
“มีหลายครั้งที่ผมคิดจะเลิกเล่นฟุตบอลเพราะความกลัว แต่ทุกวันผมได้รับโทรศัพท์และข้อความเยอะมาก ผมถือโทรศัพท์ไม่ได้เลยตอนอยู่โรงพยาบาล ภรรยาผมต้องคอยอ่านข้อความจากแฟน ๆ ให้ฟัง”
“คนมาเลเซียทั้งประเทศสวดภาวนาให้ผม มันทำให้ผมมีกำลังใจกลับไปเล่นอีกครั้ง”
เรื่องราวของเขาถูกแชร์ในโซเชียลอย่างรวดเร็ว และมีคนดังส่งกำลังใจเข้ามามากมาย ตั้งแต่ มหาธีร์ บิน โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่ไปเยี่ยมถึงบ้าน ไปจนถึงข้อความให้กำลังใจจากนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลานั้นอย่าง อองเดร โอนาน่า และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ รวมถึงสโมสร โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ส่งกำลังใจให้เช่นกัน
เมื่อร่างกายดีขึ้นตามลำดับ ไฟซาลเริ่มกลับมาลงสนามให้สะลังงอร์มากขึ้น และปลดล็อกความมั่นใจครั้งใหญ่ด้วยการยิง แฮตทริก ใส่กะลันตัน ดารุล นาอิม ในเกมที่สะลังงอร์ชนะ 7-0
ในทีมชาติ หลังไฟซาลกลับมา โค้ชมาเลเซียยังไม่ได้เรียกเขาติดธงทันที แต่โอกาสที่คู่ควรก็กลับมาในที่สุด ในเกมเอเชียน คัพ รอบคัดเลือก เดือนมีนาคม 2025 เขากลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง และลงเป็นสำรองในเกมชนะเนปาล 2-0
ผลงานล่าสุดในนามทีมชาติคือ เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก เดือนตุลาคม 2025 ที่เจอลาว ซึ่งทั้ง 2 นัดไฟซาลทำประตูให้มาเลเซียได้ทั้งสองเกม เป็นสัญญาณว่าท้องฟ้าของเขาเริ่มสดใสอีกครั้ง หลังผ่านมรสุมหนักหน่วงที่สุดในชีวิต
ก่อนหน้านี้ไฟซาลเคยสร้างชื่อในเอเชียนคัพ 2023 จากเกมเสมอเกาหลีใต้ 3-3 เมื่อเขาโชว์ทักษะล็อกหลอก คิม มิน-แจ จนเสียหลัก แล้วตวัดยิงใส่ทัพ “โสมขาว” ของกัปตัน ซน ฮึง-มิน ได้อย่างน่าจดจำ และในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เขาก็อยู่ในฟอร์มร้อนแรงจนทั้งสโมสรและทีมชาติมัก “นึกถึงชื่อเขาเป็นกลุ่มแรก ๆ”
แต่เหตุสาดน้ำกรดจากคนร้ายทำให้ชีวิตและอาชีพที่กำลังพุ่งแรงต้องหยุดชะงัก กว่าจะกลับมาเข้ารูปเข้ารอยก็ต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างมหาศาล
อย่างไรก็ตาม ด้วยกำลังใจที่หลั่งไหลมาจากผู้คนทั่วโลก ผสานกับหัวใจที่แข็งแกร่งของเขาเอง วันนี้ไฟซาล ฮาลิม กลับมาเป็นกำลังสำคัญให้ทั้งสโมสรและทีมชาติได้อีกครั้ง—เป็นการ “คืนชีพ” ในสนามฟุตบอลอย่างแท้จริง
บทสรุป
ไฟซาล ฮาลิม คือภาพแทนของนักฟุตบอลที่ไม่ได้ต่อสู้แค่ในสนาม แต่ต้องเอาชนะ “บททดสอบชีวิต” ที่โหดเกินกว่าคำว่านักกีฬาอาชีพจะรับไหว จากเด็กบ้านเกิดรัฐปีนังที่ไต่เต้าผ่านปีนัง เอฟซี สู่ศรีปาหัง ตะรังกานู และสะลังงอร์ จนกลายเป็นตัวหลักทั้งสโมสรและทีมชาติ เขากลับถูกทำร้ายด้วยการสาดน้ำกรดจนบาดเจ็บระดับรุนแรง ต้องผ่าตัดหลายครั้ง สูญเสียช่วงเวลาบนสนาม และเจ็บทั้งร่างกายกับจิตใจ
แม้คดีจะจบลงแบบ “ไม่มีการดำเนินการเพิ่มเติม” และความจริงยังไม่ถูกคลี่คลาย แต่ไฟซาลเลือกไม่ยอมแพ้ เขาฟื้นฟูร่างกาย กลับมาซ้อม กลับมาลงเล่น ทำแฮตทริกให้สโมสร และค่อย ๆ หวนคืนสู่ทีมชาติมาเลเซียอีกครั้ง จนทำประตูได้ในเกมคัดเลือกช่วงปลายปี 2025 เรื่องราวของเขาจึงไม่ใช่แค่การคัมแบ็กของนักเตะคนหนึ่ง แต่คือการพิสูจน์ว่า “กำลังใจ + ความมุ่งมั่น” สามารถพาคน ๆ หนึ่งกลับมายืนในจุดเดิมได้ แม้จะผ่านเหตุการณ์ที่เกือบพรากทุกอย่างไปจากชีวิตก็ตาม (และเรื่องแบบนี้เองที่คอนเทนต์สายฟุตบอลอย่าง UFA777 และ UFA777 เว็บแทงบอล มักหยิบมาเล่าในมุมแรงบันดาลใจอยู่เสมอ)
แหล่งอ้างอิง
https://www.transfermarkt.com/faisal-halim/leistungsdaten/spieler/480250/plus/0?saison=2017
https://www.transfermarkt.com/faisal-halim/nationalmannschaft/spieler/480250/verein_id/15738
https://www.transfermarkt.com/faisal-halim/leistungsdatendetails/spieler/480250/verein/15838
https://www.bbc.com/sport/football/articles/c15qex2pdvxo
https://en.wikipedia.org/wiki/2024_Faisal_Halim_acid_attack
https://en.wikipedia.org/wiki/Akhyar_Rashid#Personal_life
https://www.phyathai.com/th/article/burn-injury-ptp?srsltid=AfmBOopfN_dZzcN5VeWaKzsZ1PtUIf0syYEviLysZSs2QZCJQXY1BimH