ซน ฮึง-มิน กับการสร้างอิทธิพลเพื่อคนเกาหลีใต้ในลอสแอนเจลิส

หลังจากพา ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์รายการใหญ่ครั้งแรกในรอบ 17 ปี พร้อมทิ้งความทรงจำไว้มากมาย ซน ฮึง-มิน กัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ก็เริ่มมองหาความท้าทายบทใหม่ของอาชีพค้าแข้ง

ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา “ซนนี่” เลือกก้าวออกจากฟุตบอลยุโรป และย้ายไปสวมเสื้อสีดำ-ทองของ ลอสแอนเจลิส เอฟซี ในศึกเมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ สหรัฐอเมริกา ทั้งที่แฟนบอลจำนวนไม่น้อยยังเชื่อว่า สภาพร่างกายของเขาน่าจะเล่นในลีกระดับสูงของยุโรปต่อได้อย่างน้อยอีก 1-2 ปี

แต่ภาพการชูเสื้อกับ LAFC ไม่ได้เป็นแค่ “การย้ายทีมไปลีกใหม่” หากยังมีรายละเอียดเบื้องลึกที่เกี่ยวข้องกับเมือง ผู้คน และอิทธิพลทางสังคม-เศรษฐกิจที่มากกว่าที่เห็นบนหน้าข่าว

 

เจาะชุมชนเกาหลีในแอลเอ: พื้นที่สำคัญที่ซ่อนอยู่หลังการย้ายทีม

 

เจาะชุมชนเกาหลีในแอลเอ: พื้นที่สำคัญที่ซ่อนอยู่หลังการย้ายทีม

ก่อนจะคุยเรื่องฟุตบอล ต้องถอยกลับไปมองภูมิศาสตร์ของเมืองลอสแอนเจลิส หรือ “แอลเอ (LA)” กันก่อน เมืองนี้มีพื้นที่รวมราว 4,751 ตารางไมล์ หรือประมาณ 12,310 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรราว 13.3 ล้านคน

ในบรรดาย่านดังของ LA หนึ่งในพื้นที่ที่มีชื่อเสียงมากคือชุมชนชาวเกาหลีใต้ หรือ “โคเรีย ทาวน์ (Korea Town)” ที่กลายเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรม ร้านค้า และชีวิตประจำวันของคนเชื้อสายเกาหลีในสหรัฐฯ

แล้ว Korea Town ในแอลเอกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไร? หากย้อนกลับไปช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 หรือราวปี 1900 ชาวเกาหลีใต้ที่อพยพเข้ามาเริ่มรวมตัวกันบริเวณบังเกอร์ฮิลล์ ใกล้ย่านดาวน์ทาวน์ของลอสแอนเจลิส

ช่วงเวลานั้น การตั้งถิ่นฐานไม่ได้เกิดจากการเลือกเสรีทั้งหมด เพราะมีบริบทเรื่อง “การแบ่งแยกที่อยู่อาศัย” ผ่านกฎหมายพันธสัญญาทางเชื้อชาติ ที่จำกัดให้พวกเขาอยู่ในเขตพื้นที่เชื้อชาติผสมและรายได้ต่ำ ต่อมาในช่วงทศวรรษ 1930 ชาวเกาหลีจึงเริ่มย้ายไปแถบถนนเจฟเฟอร์สัน บูเลอวาร์ด

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกระลอกเกิดในทศวรรษ 1960 เมื่อประชากรชาวแอฟริกัน-อเมริกันในตอนใต้ของ LA เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ชนชั้นกลางผิวขาวจำนวนมากย้ายออกจากเขตมิด-วิลเชอร์ พื้นที่ทางเหนือของถนนโอลิมปิก บูเลอวาร์ด จึงค่อย ๆ เปลี่ยนจากชานเมืองที่มีคนผิวขาวเป็นหลัก ไปสู่ย่านที่ชาวเอเชียเริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐาน และท้ายที่สุดพื้นที่นี้ก็กลายเป็น “หลักยึด” ของชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี

แม้แหล่งข้อมูลหลายแห่งจะกำหนดขอบเขต Korea Town ไม่เหมือนกัน แต่ในปี 1980 เมืองลอสแอนเจลิสได้ประกาศกำหนดเขตชุมชน Korea Town อย่างเป็นทางการ

ปัจจุบัน ขอบเขตของ Korea Town ถูกล้อมรอบด้วยถนนหลักชัดเจน: ด้านตะวันออกติดถนน Vermont Avenue ด้านตะวันตกติดถนน Western Avenue ด้านเหนือใกล้ Third Street และด้านใต้ติด Olympic Boulevard

อีกเรื่องที่หลายคนอาจเข้าใจผิดคือ “คนส่วนใหญ่ใน Korea Town ต้องเป็นคนเกาหลี” แต่ความจริงพื้นที่นี้มีความหลากหลายทางเชื้อชาติสูงมาก สัดส่วนประชากรประกอบด้วย ชาวละติน 53.5% ชาวเอเชีย 32.2% ชาวอเมริกันผิวขาว 7.4% ชาวแอฟริกัน-อเมริกัน 4.8% และอื่น ๆ 2% อย่างไรก็ตาม หากดู “ประเทศต้นทาง” ของผู้ที่อพยพมาอยู่ในชุมชนนี้มากที่สุด จะพบว่าอันดับหนึ่งคือเกาหลีใต้ (28.6%) ตามด้วยเม็กซิโก (23.9%)

เมื่อรวมภาพทั้งหมด จากข้อมูลที่ถูกอ้างถึงโดย Pew Research Center ระบุว่าประชากรในพื้นที่ Korea Town อาจอยู่ราว 326,000 คน และชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีกว่า 17% ที่อยู่ในสหรัฐฯ อาศัยอยู่ในเขตมหานครลอสแอนเจลิส ทำให้ LA ถูกมองว่าเป็น “ชุมชนชาวเกาหลีที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศเกาหลี” อย่างแท้จริง

 

เส้นทางของซนนี่สู่ MLS: จากบุนเดสลีกาสู่ตำนานไก่เดือยทอง

อิทธิพลของ ซน ฮึง-มิน ในโลกฟุตบอลเริ่มก่อตัวตั้งแต่สมัยที่เขาค้าแข้งในบุนเดสลีกา เยอรมนี จากการเป็นดาวรุ่งน่าจับตาที่ ฮัมบูร์ก และยกระดับตัวเองกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

เขาเก็บประสบการณ์และพัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นกำลังสำคัญของสโมสร และด้วยผลงานที่หนักแน่น ทำให้หลายคนมองว่าเขาเป็น “ทายาท” บทบาทซูเปอร์สตาร์ของทีมชาติเกาหลีใต้ต่อจากรุ่นพี่อย่าง ชา บอม-กึน

การเติบโตแบบก้าวกระโดดในเยอรมนี ทำให้ซนกลายเป็นแรงบันดาลใจของเด็กเอเชียรุ่นใหม่ ที่อยากพิสูจน์ตัวเองในเวทียุโรป เขามีจุดเด่นทั้งการพาบอลได้สองเท้า ความเร็วที่หยุดยาก และการจบสกอร์ที่เด็ดขาด จนชื่อของเขาดูเหมือน “คับ” เกินกว่าจะอยู่แค่บุนเดสลีกา

ปี 2015 ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ตัดสินใจทุ่มเงินราว 22 ล้านปอนด์ ดึงตัวรุกแดนโสมขาวสู่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช่วงแรก ๆ การมาของซนช่วย “เปิดตลาดเอเชีย” ให้กับสโมสรแบบเห็นได้ชัดจากชื่อเสียงที่สั่งสมไว้ในเยอรมนี

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผลงานของเขาไม่ได้หยุดแค่เรื่องการตลาด ซนสร้างโมเมนต์ในสนามนับไม่ถ้วน เคยเป็นคู่หูระดับไอคอนกับ แฮร์รี่ เคน เคยก้าวไปคว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก และกลายเป็นผู้เล่นที่แฟนสเปอร์สผูกพันจนแทบแยกไม่ออกจากคำว่า “ตำนาน”

ตลอดระยะเวลาราว 10 ปี อิทธิพลของเขาทำให้แฟนบอลเอเชีย โดยเฉพาะชาวเกาหลีใต้ หันมาติดตามสเปอร์สมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ในฤดูกาล 2024-25 เมื่ออายุเข้าเลขสาม ฟอร์มอาจลดลงตามกาลเวลา แต่บทบาทของเขาทั้งในสนามและนอกสนามยังสำคัญ ก่อนจะมีส่วนช่วยทีมไปถึงแชมป์ยูโรป้า ลีก ได้สำเร็จ ซึ่งนั่นคือแชมป์สโมสรใบแรกในชีวิตของเขาด้วย

หลังฤดูกาลที่มีทั้งความหวานและความขม เส้นทางของ ซน กับ สเปอร์ส ก็เดินมาถึงทางแยก ทว่าไม่ว่าจะแยกกันอย่างไร เขาถูกยกขึ้นหิ้งเป็นหนึ่งในตำนานของ “ไก่เดือยทอง” ไปแล้ว

 

ทำไมไม่ไปยุโรปต่อ? ทำไมไม่ไปลีกเงินหนา? แต่เลือก LAFC

เมื่อมีข่าวว่า ซน ฮึง-มิน จะย้ายออกจากสเปอร์ส หลายสื่อคาดว่าเขายังน่าจะอยู่ยุโรปต่อ หรือไม่ก็ไปลีกที่ทุนหนาเพื่อรายได้ก้อนใหญ่

แต่สุดท้ายเขากลับเลือกเมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ ซึ่งบางคนเคยปรามาสว่าเป็น “ลีกคนแก่” โดยซนย้ายไป LAFC ด้วยค่าตัวราว 26.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 20 ล้านปอนด์

สำหรับลีกท็อปในยุโรป ตัวเลขนี้อาจเทียบได้กับค่าตัวผู้เล่นระดับกลาง ๆ แต่ในโลกของ MLS นี่คือ “สถิติค่าตัวสูงสุดตลอดกาล” ของลีก

 

“คาร์ลอส เวล่า แห่งเกาหลีใต้” และเหตุผลเชิงธุรกิจที่ใหญ่กว่าเกมฟุตบอล

คำถามคือ ทีมฟุตบอลมีเป็นร้อยเป็นพัน แต่ทำไมซนถึงตกลงย้ายมา LAFC?

“ผมมาที่ MLS เพื่อคว้าชัยชนะ” ซน ฮึง-มิน กล่าวในวันเซ็นสัญญา นี่คือเหตุผลเชิงนักเตะที่ชัดเจน แต่ในเชิงบริบท ยังมีปัจจัยอื่นที่ถูกพูดถึงด้วย

มีการอ้างจากเว็บไซต์ Korealimited ว่าปัจจัยสนับสนุนการตัดสินใจของซนยังรวมถึง การปรับตัวล่วงหน้าก่อนฟุตบอลโลก 2026 ที่สหรัฐอเมริกาจะเป็นเจ้าภาพร่วม รวมถึงการมองว่า MLS เป็นลีกที่การแข่งขันสูงและถูกจัดอันดับราวอันดับ 9 ของโลก

อีกด้านหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้คือ “ชุมชนเกาหลีขนาดใหญ่” และวิถีชีวิตในลอสแอนเจลิสที่เอื้อให้ใช้ชีวิตได้สะดวกสบาย ซึ่งช่วยให้เขาโฟกัสฟุตบอลได้เต็มที่

แต่ถ้ามองจากมุมของสโมสรในเชิงธุรกิจ ดีลนี้ยิ่งมีเหตุผลรองรับหนาแน่นขึ้นไปอีก ตั้งแต่การเจาะตลาดเอเชีย การขยายฐานแฟนบอลหน้าใหม่ ยอดขายเสื้อ ไปจนถึงการสร้างพันธมิตรกับสปอนเซอร์ระดับโลก

แม้ค่าตัวจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของ MLS แต่มูลค่าเชิงพาณิชย์ของซนถูกมองว่าสามารถ “คืนทุน” ได้จากหลายทาง ตั้งแต่จำนวนสมาชิก Apple TV ที่เพิ่มขึ้น กระแสข่าวจากสื่อทั่วโลก ไปจนถึงการยกระดับภาพลักษณ์ของสโมสรให้เป็นทีมที่คนพูดถึงมากขึ้น

หลังซนเปิดตัวกับ LAFC สิ่งที่สโมสรคาดหวังก็ทยอยเกิดขึ้น เริ่มตั้งแต่รายงานว่าสโมสรขายเสื้อได้ราว 1.5 ล้านตัวภายในหนึ่งเดือน มากกว่ายอดขายช่วงแรกของ ลิโอเนล เมสซี่ กับ อินเตอร์ ไมอามี่ ในปี 2023 ถึง 3 เท่า

ไม่เพียงเท่านั้น กระแสของซนยังทำให้ตั๋วเข้าชมการแข่งขันถูกขายหมด ราคาตั๋วพุ่งขึ้น และยังมีการทำข้อตกลงถ่ายทอดสดใหม่กับสื่อเกาหลี พร้อมกับมีการประเมินว่ามูลค่าแบรนด์ของสโมสรอาจทะลุถึง 2 พันล้านดอลลาร์ภายใน 2 ปี

เมื่อรวมกับค่าตัวราว 26 ล้านดอลลาร์ และค่าเหนื่อยต่อปีประมาณ 11 ล้านดอลลาร์ ภาพรวมถูกเล่าว่าผลตอบแทนในเชิงธุรกิจกลับมาอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งฤดูกาล

ด้วยกระแสที่เกิดขึ้น ทำให้แฟนบอลจำนวนไม่น้อยมองว่า ซน ฮึง-มิน อาจเป็นเหมือน “คาร์ลอส เวล่า เวอร์ชันเกาหลีใต้” ดาวยิงระดับตำนานของ LAFC ที่ฝากผลงานยาวนานถึง 7 ปี แม้ตอนซนย้ายมาใหม่ ๆ ชื่อเสียงจะยิ่งใหญ่กว่า แต่สุดท้ายสิ่งที่เวล่าทำไว้ก็พิสูจน์ว่า เขาคือซูเปอร์สตาร์ตัวจริงของสโมสร—และแฟน LAFC ก็หวังว่าซนจะเดินไปในเส้นทางคล้ายกัน

 

คู่หู “เดนิสซน” และจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งแอลเอจับตามอง

สำหรับชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี รวมถึงชาวเกาหลีที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ การย้ายทีมครั้งนี้มีความหมายมาก เพราะมันคือโอกาสที่แฟน LAFC จะได้เห็นซนเล่นต่อหน้า “ในเมืองของพวกเขา” และใน “เขตเวลาเดียวกัน”

วันที่ 10 สิงหาคม 2025 เกม MLS ที่ LAFC เสมอ ชิคาโก้ ไฟร์ 2-2 ซนถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองนาทีที่ 61 และใช้เวลาเพียง 20 นาที ก็มีส่วนร่วมกับประตูให้ทีมใหม่ได้ตั้งแต่เกมแรก

จังหวะนั้นซนหลุดเดี่ยวจากบอลทะลุช่อง ก่อนถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ จนทีมได้จุดโทษ และ เดนิส บูอ็องก้า รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ช่วยให้ LAFC ตีเสมอช่วงท้ายเกมและแบ่งแต้มได้สำเร็จ นี่ถูกมองว่าเป็น “จุดตั้งต้น” ของคู่หูต่างทวีป

เดนิส บูอ็องก้า คือปีกทีมชาติกาบอง ที่ผ่านประสบการณ์ในยุโรปกับหลายสโมสรในลีกเอิง ฝรั่งเศส ก่อนย้ายมา LAFC ในปี 2022 และกลายเป็นเดอะแบกเกมรุกของทีมด้วยความสามารถเฉพาะตัว ทั้งการปั่นป่วนแนวรับและการจบสกอร์

ก่อนซนย้ายมา บูอ็องก้า ถูกมองว่าเป็นคนที่มีเซนส์เกมรุกชัดที่สุดในทีม แต่เมื่อซนลงสนาม เคมีของทั้งคู่กลับเข้าที่แบบรวดเร็ว แทบไม่ต้องเสียเวลาจูนกัน

เวลาผ่านไปราว 4 เดือน คู่หูที่แฟนบอลเรียกว่า “เดนิสซน” (Denis-Son) เริ่มสร้างความน่าเกรงขามให้เกมสวนกลับของ LAFC อย่างจริงจัง หลายครั้งที่ทั้งคู่เร่งสปีดวิ่งตีคู่ ก่อนจ่ายให้กันและกันหลุดไปยิง ทำให้คู่แข่งจำนวนมากไม่อยากเปิดหน้าแลก

แม้อายุของทั้งสองเข้าสู่เลข 3 แล้ว แต่ความเร็ว ความสามารถ และประสบการณ์ยังคงทำงานร่วมกันได้ดี ผลัดกันยิง ช่วยกันจ่าย จนกลายเป็นหนึ่งในคู่หูที่อันตรายที่สุดของ MLS ณ เวลานี้

 

อิทธิพลที่ใหญ่กว่า 90 นาที

การเดินทางจากลอนดอนเหนือสู่ลอสแอนเจลิส ทำให้ ซน ฮึง-มิน สร้างอิทธิพลให้ทีมใหม่แบบรอบด้าน ทั้งเรื่องในสนามและนอกสนาม

และเมื่อซนเริ่มประสานงานกับคู่หูใหม่อย่าง เดนิส บูอ็องก้า ได้ลงตัว หลายคนเชื่อว่าคู่หูคู่นี้มีศักยภาพพา LAFC สีดำ-ทองเดินหน้าไล่ล่าเกียรติประวัติได้จริง

แม้ถ้วยแชมป์กับทีมใหม่อาจยังไม่มาถึงในทันที แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแล้วคือ ซนได้ช่วย “เพิ่มมูลค่า” ให้สโมสร และสร้างแรงดึงดูดต่อแฟนบอล โดยเฉพาะชาวเกาหลีใต้ ให้หันมาส่งแรงเชียร์และติดตาม LAFC มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

บทสรุป

การย้ายของ ซน ฮึง-มิน ไป ลอสแอนเจลิส เอฟซี ไม่ได้มีความหมายแค่การเริ่มบทใหม่ในสนาม แต่ยังสะท้อน “พลังของชุมชนเกาหลีในแอลเอ” และโอกาสเชิงการตลาดระดับโลก ทั้งยอดขายเสื้อ ความสนใจจากสื่อ การถ่ายทอดสด และการขยายฐานแฟนบอลในเอเชีย ขณะเดียวกันในสนาม ซนเริ่มสร้างอิมแพ็กต์ตั้งแต่นัดแรก และจับคู่กับ เดนิส บูอ็องก้า จนกลายเป็นแนวรุกที่น่ากลัว ชี้ให้เห็นว่าอิทธิพลของเขาใหญ่กว่าแค่ผลงาน 90 นาที — สำหรับแฟนบอลที่ตามข่าวและฟอร์มเพื่อวิเคราะห์ก่อนเกม UFA777 และ UFA777 เว็บแทงบอล ก็เป็นอีกช่องทางที่หลายคนใช้เช็กราคาและตลาดเดิมพันให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงก่อนตัดสินใจจัดบิล

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.bbc.com/sport/football/articles/c708lx0y87xo
https://www.pewresearch.org/race-and-ethnicity/fact-sheet/asian-americans-koreans-in-the-u-s/
https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_U.S._cities_with_significant_Korean_American_populations#:~:text=Table_title:%20Metropolitan%20areas%20Table_content:%20header:%20%7C%20Rank,Area:%20Seattle%20%7C%20Korean%2DAmericans%202019:%2067%2C000%20%7C
https://www.transfermarkt.com/heung-min-son/profil/spieler/91845
https://www.chosun.com/english/sports-en/2025/10/31/G4DVXZPTDZBS7GNFOMRY6SA5HM/#:~:text=However%2C%20the%20white%20home%20jerseys,is%20currently%20topping%20the%20sales.&text=This%20article%20has%20been%20translated%20by%20Upstage%20Solar%20AI
https://en.wikipedia.org/wiki/Koreatown,_Los_Angeles#Geography
https://korelimited.com/blogs/korelimited/why-did-son-heung-min-choose-lafc?srsltid=AfmBOoopfabFGFknDh5v-gyhW4wEPPEVVQgCHfbtEF7b2Wt6-eT5_jqU
https://www.mlssoccer.com/news/son-bouanga-lafc-bromance-fuels-mls-cup-dream